กระบอกลม (Air Cylinder)

  1. ในอุปกรณ์ทำงาน (Actuators) หรือกระบอกลม (Air Cylinder) ที่อาจเกิดอันตรายจากการเคลื่อนที่ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนทำงานจนได้รับบาดเจ็บได้
  2. ตรวจดูท่อลมที่ต่ออยู่กับอุปกรณ์ทำงาน (Actuators) หรือ กระบอกลม (Air Cylinder) ที่มีการเคลื่อนที่ต้องไม่สัมผัสหรือเสียดสีกับชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ เพราะจะทำให้ท่อลมหรืออุปกรณ์ทำงาน (Actuators) หรือ กระบอกลม (Air Cylinder)เกิดการสึกหรอหรือชำรุดได้
  3. การถอดประกอบกระบอกลมชนิดที่ใช้ต้องมั่นใจว่าน็อตที่ใช้ยึดได้รับการขันด้วยแรงที่เหมาะสมดีแล้ว เพราะอาจทำให้กระบอกลมเกิดการชำรุดเสียหาย หรือเกิดการบิดงอหรือเสียสมดุลย์ได้
  4. การซ่อมบำรุงกระบอกลมประเภทที่ไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น (Non-Lube) ต้องมั่นใจว่าท่านได้ทำการใส่สารหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานเท่านั้น แต่ถ้าท่านเลือกใช้สารหล่อลื่นประเภทอื่น ท่านจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับชุดหล่อลื่น (Lubricator) จะใช้งานแบบไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่นอีกไม่ได้
  5. ในการณีที่ท่านนำกระบอกลม (Air Cylinder) ประเภทที่ไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น (Non-Lube)ไปติดตั้งใช้งานกับเครื่องจักรที่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับชุดหล่อลื่น (Lubricator) จงจำไว้ว่ากระบอกลมนั้นจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับชุดหล่อลื่นต่อไปด้วย เพราะน้ำมันจากชุดหล่อลื่นได้ชะล้างสารหล่อลื่นออกไปขณะที่เครื่องจักรทำงาน จึงจำเป็นที่จะต้องใช้งานร่วมกับชุดหล่อลื่น
  6. การเลือกใช้กระบอกลม (Air Cylinder) ชนิดที่มีเบาะลมที่ตำแหน่งสุดท้าย (Air Cushin) หากกระบอกลมเคลื่อนที่ไม่สุดระยะชัก การลดแรงกระแทกจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีนี้ท่านอาจใช้ตัวกันกระแทก (Shock Absorber) ติดตั้งไว้กับเครื่องจักรเพื่อช่วยในการลดแรงกระแทกได้

ประโยชน์ของกระบอกลม (Air Cylinder)

กระบอกสูบถูกนำมาใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ด้านก่อสร้าง ด้านการผลิต หรือแม้แต่เครื่อง มือวัดต่าง ๆ โดยจะใช้ในการ ดึง ยก หรือแม้กระทั่งการเปิด-ปิดประตู และยังสามารถยึดเก็บหรือนำอุปกรณ์ ชิ้นส่วนต่าง ๆ มาเป็นส่วนประกอบในกรรมมาวิธีการผลิตได้อีกด้วย เป็นการช่วยให้งานผลิตรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคุมได้ง่ายจากอุปกรณ์นิวเมติก เช่น วาล์วควบคุมแรงดัน และยังสามารถเดินท่อเพื่อใช้งานได้ในระยะ ไกลอีกด้วย มีความปลอดภัยสูงเพราะใช้แรงดันอากาศจึงทำให้ไม่มีอันตรายจากการระเบิดหรือติดไฟ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงในการทำงาน

เลือกใช้กระบอกสูบให้เหมาะสมกับลักษณะงาน

  1. แรงดันอากาศ ต้องตวรจสอบทั้งขนาดกระบอกสูบและแรงดันอากาศภายในให้เหมาะสม หากไม่สม่ำเสมออาจ
    ส่งผลต่อระบบทำให้เกิดการผิดพลาดได้ แต่หากมีแรงดันที่สูงเกินไปอาจทำให้ซีลชำรุดเสียหายได้
  2. น้ำหนักของโหลด ควรมีกระบอกนิวเมติกส์ที่ให้แรงได้มากกว่าโหลด จึงจะทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน
  3. ความเร็วของงาน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
  4. ความเร็วต่ำ 4 นิ้ว/วินาที ควรเลือกกระบอกลมที่ผลิตแรงดันมากกว่า 25% ของโหลด
  5. ความเร็วปานกลาง 4-6 นิ้ว/วินาที ควรเลือกกระบอกลมที่ผลิตแรงดันมากกว่า 50% ของโหลด
  6. ความเร็วสูง 16 นิ้ว/วินาที ควรเลือกกระบอกลมที่ผลิตแรงดันมากกว่าของโหลด 2 เท่า

ข้อควรระวังในการติดตั้งกระบอกลม (AIR CYLINDER)
อายุการใช้งานของกระบอกลมเบื้องต้น (Actuator Air-Cylinder) มาจากการติดตั้งที่ถูกต้องข้อสำคัญคือ ก้านสูบต้องไม่ถูกแรงที่มีทิศทาง
ที่งัดลูกสูบ-โอริง-กระบอกลมซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายหรืออายุการใช้งานสั้นลง
สิ่งที่สำคัญในการติดตั้งกระบอกลม คือจุดศูนย์กลางของแกนลูกสูบกระบอกลมอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกับการเคลื่อนที่ของชิ้นงาน/โหลด (Load) เพื่อไม่ให้มีแรงงัดต่อก้านสูบ ลูกสูบโอริง และฝาด้านในของกระบอกลม ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

error: Content is protected !!